152 จำนวนผู้เข้าชม |
TDS เป็นตัวชี้วัดคุณภาพน้ำที่สำคัญ ซึ่งใช้วัดสารอินทรีย์และอนินทรีย์ในน้ำ ระดับ TDS ที่สูงอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อรสชาติ กลิ่น ลักษณะ และความเหมาะสมของน้ำ ระดับ TDS ได้รับอิทธิพลจากทั้งปัจจัยธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ หากมี TDS มากเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ดังนั้นการตรวจสอบและจัดการระดับ TDS จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้ปลอดภัย การเข้าใจ TDS และผลกระทบของมันจะช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถรักษาระดับที่ยอมรับได้อย่างเหมาะสม
What is TDS and Why Should You Care About It?
ค่า TDS คืออะไร? ทำไมคุณถึงควรสนใจ? เข้าใจค่า TDS ง่ายๆ ใน 5 นาที
หลายคนอาจเคยเห็นเครื่องวัดค่า TDS เล็กๆ แบบนี้ แต่รู้ไหมว่าตัวเลขบนหน้าจอนั้นหมายถึงอะไร และทำไมมันถึงสำคัญกับสุขภาพและการใช้งานของคุณ?
TDS คืออะไร?
TDS ย่อมาจาก Total Dissolved Solids หรือสารที่ละลายน้ำทั้งหมด
ง่ายๆ คือ จำนวนสารต่างๆ ที่ละลายอยู่ในน้ำ ที่เราไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่าได้ เช่น:
เกลือ (Sodium Chloride) แคลเซียม (Calcium) แมกนีเซียม (Magnesium) ธาตุเหล็ก (Iron) ไนเตรต (Nitrates) ซัลเฟต (Sulfates) หน่วยวัด: ppm (parts per million) หรือ mg/L
TDS ส่งผลต่อรสชาติและกลิ่น
TDS สูงเกินไป = น้ำรสเค็ม หรือมีรสแปลกๆ
TDS ต่ำเกินไป = น้ำรสจืด ไม่อร่อย
กระทบต่อสุขภาพ ค่า TDS สูงอาจมีสารเป็นพิษปนเปื้อน ค่า TDS ต่ำเกินไปอาจขาดแร่ธาตุที่จำเป็น
ทำลายอุปกรณ์และเครื่องจักร สะสมตะกรัน ในท่อ หม้อต้มน้ำ เครื่องทำน้ำแข็ง ลดอายุการใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่มค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง
วิธีวัดค่า TDS เครื่องมือที่ต้องใช้:
- TDS Meter (ราคา 200-500 บาท)
- แก้วน้ำสะอาด
- ตัวอย่างน้ำที่ต้องการวัด
ขั้นตอนการวัด:
1. เปิดเครื่อง TDS meter
2. จุ่มลงในน้ำ ประมาณ 2-3 เซนติเมตร
3. รอผล 3-5 วินาที
4. อ่านค่า บนหน้าจอ
คำถามที่ถูกถามบ่อย
Q1: ค่า TDS สูง = น้ำสกปรกใช่ไหม?
A: ไม่เสมอไป! TDS วัดเฉพาะสารที่ละลายได้ ไม่รวมแบคทีเรียหรือไวรัส
Q2: น้ำ RO มี TDS ต่ำมาก ดื่มได้ไหม?
A: ดื่มได้ แต่ควรเพิ่มแร่ธาตุด้วย Post-treatment
Q3: ต้องวัด TDS บ่อยแค่ไหน?
A:
- บ้านเรือน: เดือนละ 1 ครั้ง
- ธุรกิจ: สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- อุตสาหกรรม: ทุกวันหรือแบบ real-time
Q4: ค่า TDS เปลี่ยนได้ไหม?
A: ได้! ขึ้นกับ:
- ฤดูกาล (หน้าแล้งมักสูงกว่า)
- แหล่งน้ำ
- การปนเปื้อน
FilterMart-TH พร้อมให้คำปรึกษา!