แร่กรองสนิมและความขุ่นในน้ำ

หลักการทำงานของแร่ไพโรลูไซด์ "มิสึเอนน์" ในการกรองน้ำผลิตน้ำประปา

แร่ไพโรลูไซด์ "มิสึเอนน์" ที่ได้จากธรรมชาติโดยไม่มีการปรับแต่งทางเคมีนั้น มีหลักการทำงานในการกรองน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาที่สะอาดอยู่บนพื้นฐานของ
กระบวนการออกซิเดชันทางเคมี (Chemical Oxidation) โดยสรุป

1. การสัมผัส: เมื่อน้ำดิบไหลผ่านชั้นของแร่ไพโรลูไซด์ "มิสึเอนน์" สารปนเปื้อนในน้ำ เช่น เหล็กและแมงกานีส จะสัมผัสกับผิวหน้าของอนุภาคแร่

2. การดูดซับและออกซิเดชัน: แร่ไพโรลูไซด์มีคุณสมบัติทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน กับสารเหล็กและแมงกานีสที่ละลายอยู่ในน้ำ ทำให้สารเหล่านี้เปลี่ยนสถานะจากรูปที่ละลายน้ำได้ เป็นรูปที่ไม่ละลายน้ำ

3. การตกตะกอน: สารเหล็กและแมงกานีสที่ถูกออกซิไดซ์แล้ว จะตกตะกอนเกาะติดอยู่บนผิวหน้าของอนุภาคแร่ หรือรวมตัวกันเป็นก้อนตะกอนขนาดใหญ่

4. การกรอง: ในขั้นตอนสุดท้าย ก้อนตะกอนที่เกิดขึ้นจะถูกกักเก็บไว้ในชั้นของแร่ไพโรลูไซด์ หรือถูกกรองออกไปโดยวัสดุกรองอื่นๆ ที่อยู่ชั้นล่าง หรือตัว"มิสึเอนน์"เองเหมือนชั้นกรองทราย ทำให้น้ำที่ผ่านการกรองออกจะมีความสะอาดกำจัดสารเหล็กและแมงกานีสได้สูงสุด
ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้น (โดยสรุป)

Fe²⁺ + MnO₂ + 2H⁺ → Fe³⁺ + Mn²⁺ + H₂O
Fe²⁺ :เหล็กในรูปไอออน
MnO₂ :แมงกานีสไดออกไซด์ (ส่วนประกอบหลักของแร่ไพโรโลไซด์)
Fe³⁺ :เหล็กในรูปไอออนที่มีออกซิเจนจับอยู่ ทำให้ไม่ละลายน้ำ
Mn²⁺ :แมงกานีสในรูปไอออน
H⁺ :ไฮโดรเจนไอออน (ความเป็นกรด)
H₂O: น้ำ
จากปฏิกิริยาข้างต้น จะเห็นได้ว่า แร่ไพโรโลไซด์ทำหน้าที่เป็นตัวออกซิไดซ์ ทำให้เหล็กเปลี่ยนสถานะจาก Fe²⁺ (ละลายน้ำได้) เป็น Fe³⁺ (ไม่ละลายน้ำ) และตกตะกอน

 ข้อดีของการใช้แร่ไพโรลูไซด์ "มิสึเอนน์"
เป็นธรรมชาติ: ไม่ก่อให้เกิดสารเคมีตกค้าง
ประสิทธิภาพสูง: สามารถกำจัดเหล็กและแมงกานีสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อายุการใช้งานนาน: เมื่อดูแลรักษาอย่างถูกวิธี สามารถใช้งานได้นานหลายปี
ต้นทุนต่ำ: เมื่อเทียบกับวิธีการบำบัดน้ำด้วยสารเคมีอื่นๆ